เมื่อผมเข้ากรุงไปงาน #petdotalkshow

วันนี้ไปงาน #petdotalkshow จัดโดยคุณ @rawitat มาครับ รายละเอียดของงานดูได้ ที่นี่ เป็นงานที่ดีมากๆ เลยงานหนึ่ง และผมโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบฟังพวกทอร์คโชว์ด้วย ก็เลยซื้อบัตรแบบไม่ลังเล งานนี้เลยโฉบเดี่ยว

เกริ่นสักหน่อย.. ผมได้ติดตามการ์ตูน #petdo มาแบบอ่านบ้าง ไม่อ่านบ้าง แต่ก็พอคิดได้ว่าเป็นการ์ตูนที่สะท้อนถึงประสบการณ์การทำงานในด้าน IT ได้อย่างเห็นภาพและตรงประเด็น ไม่ใช่แค่เอาฮาอย่างเดียว แต่ก็สามารถเป็นแง่คิดสอนอะไรผมหลายๆ อย่าง และคิดว่าจะมีประโยชน์ต่ออาชีพการงานของผมในอนาคต (ผมยังเรียนอยู่และไม่เคยทำงานแบบเต็มเวลามาก่อน :D) ใครอยากลองอ่านก็เชิญที่ iampetdo.com ครับ

ก่อนอื่น ขอนอกเรื่องก่อนนะครับ ผมไปถึงที่งานตอนประมาณ 11 โมงกว่าๆ มาถึงก็เจอเจ้าตัวนี้ครับ

แล้วก็ตัวนี้

ทั้งผู้รักษาความปลอดภัย ทั้งพนักงานต้อนรับใส่กระดิ่งเป็นโดเรม่อนกวักอีก ด้วยความหมันไส้หน้ากวนๆ ของพวกมัน ก็เลยขอสักที

ประทับใจครับ คือแว๊บแรกที่ผมเห็นหอประชุมปรีดี พนมยงค์ ผมคิดว่านี่เป็นตึกร้างอะ - -" แต่แค่ไอ้ตัว 3 ตัวนี้มาต้อนรับอยู่ข้างหน้า ก็ทำให้อะไรๆ ดูดีขึ้นครับ ชอบๆ

พอไปถึงหน้างานจะไปลงทะเบียน ก็ได้ยินคุณ @nonggade ถามว่าทำไมมาเร็วจัง ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไรในตอนนั้น ก็มาขอตอบในบล็อกนี้แทนละกันว่าผมมีจุดประสงค์รอง นั่นก็คือ..

เซนไดราเมน มอคโคริ สาขาทองหล่อ นั่นเอง แหะๆ แบบว่าอยากลองอะ ทำไมไม่ไปกินก่อนแล้วค่อยมาลงทะเบียน? นี่คือเหตุผลครับ 😛

อยากเอาไปถ่ายรูปนั่นเอง อิอิ

โอเค ได้เวลาเข้าเรื่องสักที ก่อนงานจะเริ่มดูเหมือนคนจะน้อย แต่พองานเริ่มจริงๆ คนก็เริ่มมากัน ถึงจะไม่เต็มห้อง แต่ผมว่างานนี้ก็ประสบความสำเร็จได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว มีวง #iHear มาเปิดงาน ตามด้วยสไลด์แซวด้านการศึกษาที่ใช้เทมเพลตซ้ำๆ กันมา และ iPhone ที่ว่าสัญญาณจะไม่ค่อยมีเวลาที่ถือผิดวิธี และคุณ @rawitat ก็ออกมาเปิดตัว

เริ่มแรกก็จะเล่าเรื่องว่าพฤติกรรมของคนรอบตัวเราเป็นอย่างไร ประสบการณ์จริงที่ไปเจอมากับพนักงานขายสินค้า และพฤติกรรมที่ไม่ดีบนเว็บต่างๆ เป็นอย่างไร แซวชาวบ้านว่าให้เอาอย่างเว็บ Drama-Addict.com เพราะสามารถรวมข้อมูลจากหลายๆ เว็บมาไว้ที่เดียวกันได้.. ก็ขอชื่นชมด้วยครับ อีกทั้งยังเล่าประสบการณ์ที่เป็น อ. ว่าได้เจอนักศึกษาแบบไหนอีกด้วย อีกหน่อย ผมก็คงเจอแบบนี้เช่นกัน ฮะๆ และผมชอบมากเลยที่กล่าวพาดพิงถึง Java ว่ามันช้า.. เห็นด้วยครับ! (โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบ)

มีการกล่าวถึงการทำสไลด์ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เช่น ใช้ฟอนต์หลายฟอนต์ ใช้สีที่ไม่เหมาะต่อการอ่าน ใช้ Bullet อย่างไม่เหมาะสม การใส่รูปที่ไม่สื่อ และการใส่อนิเมชั่นมาเยอะเกินทำให้ไขว้เขว เสียสมาธิ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อโยงไปตอบคำถามว่า เพ็ดโด้คืออะไร? นั่นเอง ผมชอบสไลด์หน้าหนึ่งที่ว่า "Learnนิ่ง by ดูing" ดูเป็นการสะท้อนปัญหาของสังคมไทยจริงๆ ที่เราจำเป็นต้องช่วยกันแก้ไขอย่างจริงจัง

ก่อนที่จะพักครึ่ง ก็ได้เชิญแขกพิเศษมา นั่นก็คือ อ. @jittat นั่นเองครับ มาเป็นตัวอย่างของ อ. เพ็ดโด้ แค่ออกมาแสดงตัวก็ฮาแล้ว แต่ดูท่า อ. ท่านจะตื่นเต้นมากไปหน่อย หุหุ อย่างไรก็ตามแต่ อ. ท่านนี้ เป็น อ. ที่ผมนับถือด้วย เป็นคนที่เก่งมาก และแจกเกรด F ให้ผมด้วย! ฮะๆ แต่ถ้าตอนนั้นไม่ได้ F มา ผมคงจะเหลวไหลไปไหนต่อไปแล้ว ขอบคุณอีกทีครับที่ให้ F ผม ตาสว่างเห็นสัจธรรม (ไม่ใช่ สัตว์จะทำ นะครับ) กันเลยทีเดียว -/\-

การเล่าเรื่องจะอ้างอิงถึงการ์ตูนเพ็ดโด้บางตอนเอามาพูดขยายความ และเรียบเรียงใหม่ ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ ฟังและเข้าใจได้ง่าย มีข้อเสนอแนะอย่างหนึ่งครับ ผมว่าน่าจะทำให้ฉากหลังของโปรเจคเตอร์มันใหญ่ๆ ไปเลย จะได้เห็นคำพูดในการ์ตูนได้ชัดเจนมากขึ้นครับ (บางตอนผมไม่ได้อ่านก็เลย งงๆ เล็กน้อย)

พักครึ่ง.. วง #iHear ก็มาเล่นให้ฟังต่อ ดนตรีเพราะ เพลงเพราะ นักร้องเสียงดีกันทุกคนเลย แหะๆ แต่บางทีพูดอะไรมา ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอะ เสียงไมค์มันออกมาอู้ๆ ไปหน่อย

กลับมาครึ่งหลัง ก็ได้พูดถึง User/Client โดยจะอ้างอิงถึงการ์ตูนแต่ละตอนครับ แล้วก็เล่าถึงว่าคนเราส่วนใหญ่จะมองที่ผลแต่ไม่ค่อยมองที่เหตุ แล้วก็มีสไลด์หนึ่ง ที่ผมก็ชอบอีกเช่นกันที่เป็นกราฟที่เอามาจากหนังสือเล่มหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้) แสดงให้เห็นว่า People สำคัญที่สุด และ Technology อยู่อันดับสุดท้าย แต่ในความเป็นจริงในหลายๆ ที่รวมไปถึงในประเทศของเรา อันดับ 1 ดันเป็น Technology และอันดับสุดท้ายเป็น People อันนี้โดนมากเลยครับ ตัวผมเองบางทีก็ชอบไปเล่นเทคโนโลยีก่อนเช่นกัน 🙁

จากนั้นก็ต่อด้วยเรื่อง Failๆ ของ Usability ซึ่งได้ยกตัวอย่างจากรูปที่ถ่ายมาในชีวิตประจำวัน แล้วก็กลับมาเล่าถึงเรื่องผู้ใช้ทั่วๆ ไป ที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง และยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองคิด และสิ่งที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเรื่อง การแสดงผลที่ผิดพลาดของ IE ซึ่งผู้ใช้ประมาณว่าไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้ Firefox ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่พอเอาไอคอนของ IE มาแทนไอคอนของ Firefox และเอามาไว้ตำแหน่งเดียวกับไอคอนเดิมของ IE พบว่า ผู้ใช้สามารถใช้ Firefox ได้อย่างปกติ.. ต่อมาก็เล่าถึงเรื่อง Requirement ที่ไม่ชัดเจนและเป็นไปไม่ได้ และอะไรอีกหลายๆ อย่าง ตลกดีครับ ฮากันเข้าไป แต่ฮาอย่างเดียวก็คงไม่เหมาะ เราต้องเข้าใจความจริงด้วย และต้องยอมรับมัน -- อันนี้เขียนไว้เตือนสติตัวเองนะครับ

ไม่รู้ว่าทำไม ผมรู้สึกว่าครึ่งแรกดูสนุกกว่าครึ่งหลัง แต่ครึ่งหลังดูฮากว่า ฮะๆ แล้วก็แอบงอนด้วย ทำไมไม่มีใครมาแจกน้ำผมมั่งเลย ชิๆ (แซวเล่นนะครับ :P)

และตอนสุดท้ายก็ได้ฝากข้อคิดไว้ว่าให้กำจัด Problem Generator (หรือ ไอ้เพ็ดโด้) ทิ้งซะก่อน นั่นก็คือให้ "แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ" นั่นเอง 🙂

คุ้มค่าทุกบาทครับ สนับสนุนเสื้อไปทั้ง 3 แบบ แหะๆ ใครมาอ่านบล็อกผมก็ขอแนะนำให้ไปฟังกันนะครับถ้ามีครั้งต่อไป จริงๆ ผมก็ไม่ชอบเข้ามาในเมืองสักเท่าไหร่ ที่ยอมเข้ามาก็เพราะงานนี้เลยนะเนี่ย เย้! จะคอยติดตามผลงานต่อไปครับ

Author: zkan

Soon to be a newbie data scientist. I ♥ machine learning, computer vision, robotics, image processing, data visualization, and data analytics.

1 thought on “เมื่อผมเข้ากรุงไปงาน #petdotalkshow”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *