หัวข้อที่ไปเข้าฟังมา~
- Content Marketing 2019 for Digital Branding
- การสร้าง Content แบบ Longform ที่ช่วยให้คนอ่านเนื้อหานานขึ้น 300% (Guide to Longform Content)
- สร้างตัวตนออนไลน์บน Google Search
- WooCommerce Best Practice for Thai Shop
- [Lightning Talks] อยากจะ Blog ว่ารักเธอ เป็น Blogger เปลี่ยนรักให้เป็นเงิน
- Maintaining a WooCommerce Website
- Customizing WooCommerce with WooCommerce Customizer and How to Extend Its Functionality
Content Marketing 2019 for Digital Branding
Speaker: Siriprapha Polaha
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/content-marketing-2019-for-digital-branding/
- หัวใจของ content marketing เราจะพูดในสิ่งที่คนอื่นอยากฟัง เราไม่ได้จะพูดในสิ่งที่เราอยากพูด content จะดีหรือไม่ดี คนที่บอกได้คือผู้ฟัง คุณค่าของ content ของเรานั้นผู้ฟังเราจะเป็นคนกำหนด
- เผยแพร่อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพื่อให้ผู้ฟังได้รับข้อมูลของเราอย่างต่อเนื่อง
- เทรนด์ในปี 2019 เราควรต้องวางแผนในแต่ละเดือนว่าเราจะทำ content อะไร
- ใช้ visual & audio content มาผสมผสานกับ text ให้มากขึ้น แทนการเล่าเรื่องราวด้วย text เพียงอย่างเดียว
- การบอกเล่าเรื่องเราแบบ brand story อาจจะไม่พอ ต้องมี user experience ร่วมด้วย ให้ user เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของเราให้มากขึ้น
- ปี 2019 จะมี micro- และ nano-influencer มาเพิ่ม จะไม่ใช่แค่ big influencer เพียงอย่างเดียว แต่ว่าถ้าจะทำให้มี impact มากขึ้น จำนวน micro- หรือ nano-influencer ควรจะมีให้มากพอ (เน้นจำนวนด้วย)
- Digital marketer ต้องมีทักษะ data analysis ด้วย
- การวัดผลควรจะใช้ interaction (engagement) มากกว่า reach เพราะว่า reach จะเอาไปวัดผลอะไรไม่ค่อยได้ มันเป็นการแสดงผลให้กลุ่มเป้าหมายเห็นเฉยๆ แต่เราไม่รู้ว่าเค้าสนใจจริงๆ หรือเปล่า
- การทำ content เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า social media ดังนั้นให้เน้นไปที่ content ก่อนเสมอ
- เครื่องมือในการทำการตลาด
- การทำ content marketing เหมือนเป็นการปลูกต้นไม้ ให้มองระยะยาว
- การทำ customer journey มีส่วนช่วยเราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และช่วยเราให้ปรับ content ของเราให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ดีขึ้นได้
การสร้าง Content แบบ Longform ที่ช่วยให้คนอ่านเนื้อหานานขึ้น 300% (Guide to Longform Content)
Speaker: Khajorn Chiaranaipanich
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/content-longform-increase-engagement
- ในยุค tldr ทำให้การทำ longform content มีความท้าทาย แต่ก็ยังมีช่องทางที่จะให้คน engage ได้อยู่
- ทำไมต้อง longform? content ประเภทนี้จะได้รับความน่าเชื่อถือ เพราะคนอ่านจะมีอารมณ์แบบนั่งชิลๆ แล้วก็ค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ นึกภาพคนนั่งจิบกาแฟอ่าน magazine แต่ว่า content ประเภทนี้ค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ
- Longform → tech + content ซึ่งจะเอาพวก graphic ต่างๆ วีดีโอต่างๆ มาผสมผสานกับ text ทำให้ content น่าอ่านมากขึ้น
- Visual Builder เป็น WordPress plugin ตัวหนึ่งที่เอาไปช่วยในการทำ longform ได้ จะจัดวาง layout เรื่องรูปกับข้อความให้สวยๆ ได้ แต่ว่าตัว plugin นี้ค่อนข้างหนัก แล้วทำงานบนมือถือได้ลำบาก
- Divi Builder เป็น WordPress plugin ที่แนะนำ ใช้คุ้ม แล้ว speaker ก็ใช้จนมาถึงทุกวันนี้
- Longform บทความดีๆ เจ๋งๆ บทความหนึ่ง ใช้เวลาทำค่อนข้างนาน ทำ iterate หลายๆ รอบ
- Longform จะเหมาะกับ content ที่ deep down ลงไป แต่ถ้าพวกที่เป็นข่าวสารก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำ longform
- https://www.mangozero.com/category/longform/
- การทำ long form ทำให้ content เป็น premium ทำให้คนอยู่กับ content นานขึ้นจริง แต่ไม่ได้ทำให้เพิ่ม traffic เท่าไหร่
สร้างตัวตนออนไลน์บน Google Search
Speaker: Cherry Sireetorn Prommawin
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/managing-your-online-presence-on-google-search/
- ทุกๆ 1 วินาที ตอนนี้มีคน google อยู่ประมาณ 40k ครั้ง
- Organic search เป็นส่วนที่ลูกค้าเซิชมาแล้วเจอเว็บเรา ไม่เกี่ยวข้องกับส่วน ads
- Google จะ crawl → index → ranking
- Google จะมาดูว่าเว็บเราอัพเดทบ่อยแค่ไหน Google จะใช้เป็นตัววัดว่าจะเข้ามาดูเว็บเราบ่อยแค่ไหน
- การใช้ title กับ meta tag ส่งผลให้ Google เซิชมาเจอแล้วเข้าใจเว็บเรามากขึ้น เราควรต้องทำไว้
- ใช้ structured data จะทำให้เว็บเราขึ้นหน้าเซิชของ Google แบบมีรีวีวมีรูปได้
- มี structured data testing tool เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจ tag ของเรา
- อย่าเน้นแต่การทำ SEO แต่ให้ดูด้วยว่ากลุ่มลูกค้าเราคือใคร เพื่อที่จะได้สร้าง content ดีๆ ออกมา
- Search Console คือเครื่องมือที่เราสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับ SEO ของเว็บเราได้หมดเลย
- Page speed คือ factor หนึ่งในการจัดอันดับ ตั้งแต่ปี 2018 Google เอามาใช้กับ mobile ด้วย
- PageSpeed Insights กับ Lighthouse เป็น tool ที่เอาไว้ดูว่าเว็บเราโหลดไวแค่ไหน มีปัญหาอะไร ซึ่ง Lighthouse จะบอกข้อมูลได้ละเอียดกว่า PageSpeed และมี SEO audit ให้ด้วย
- Site Kit เป็น WordPress plugin ที่รวมข้อมูลของ Google มาแสดงผลใน WordPress เลย
WooCommerce Best Practice for Thai Shop
Speaker: Chakkrisn Talawat
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/woocommerce-best-practice-for-thai-shop/
- https://th.seedthemes.com/blog/woocommerce-best-practice-for-thai-shop/
- ปัญหาสำหรับคนไทย
- ภาษา
- การโอนเงิน เพราะว่าคนไทยยังไม่ค่อยใช้บัตรเครดิตกันเหมือนเมืองนอก
- การตัดบัตรเครดิต ใช้พวก Omise หรือแบงค์ต่างๆ
- การส่งของยังไม่ค่อยมีการแจ้ง tracking เท่าไหร่ ในตัวมันเอง แต่ก็พอมี plugin บ้าง
- ร้านค้าหลายภาษา ค่อนข้างวุ่นวาย โปรโมชั่นอาจจะไม่เหมือนกัน
- ล็อกอินด้วย social
- ส่งอีเมลไม่ให้ติดสแปม แนะนำ Post SMTP หรือ WP SES
- Kadence WooCommerce Email Designer สามารถปรับแต่งรูปแบบเมลได้
- Cache ใช้ Breeze, WP-Rocket, WP Faster Cache
- บีบอัดไฟล์ด้วย Autoptimize
- เช็ค WooCommerce status เพื่อดูประสิทธิภาพของ Woo ของเรา
- DuracellTomi’s Google Tag Manager for WordPress ใช้จัดการ Google Tag
- ใช้ GTM อันเดียว แล้วสคริปที่เหลือ เช่น Facebook Pixel เอาไปจัดการที่ Google Tag เอง
- User Switching ใช้ login เป็นลูกค้า
- Checkout Field Editor (Checkout Manager) for WooCommerce เอาไว่เพิ่ม field ในหน้า checkout
[Lightning Talks] อยากจะ Blog ว่ารักเธอ เป็น Blogger เปลี่ยนรักให้เป็นเงิน
Speaker: Kiattirat Jindamanee
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/bloger-experience/
- http://taokaemai.com/
- เราแทบไม่เคยคิด “มูลค่า” กับสิ่งที่เราจ่ายไปเพื่อ “ความสุข” เพราะเราได้รับ “คุณค่า” มากกว่าที่เราจ่ายไป
- เริ่มที่ตัวเอง สำรวจตัวเอง เรารักอะไร เราอยากบอกอะไร
- รักที่จะแบ่งปัน ความรู้ยิ่งแบ่งปันยิ่งได้กลับมา
- สร้างโอกาสให้กับคนอื่นด้วย เมื่อผู้อื่นได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราแบ่งปัน
- ให้ก่อนที่จะรับ การจะเป็น blogger เราต้องเริ่มจากการให้
Maintaining a WooCommerce Website
Speaker: Witthaya Santiwitthayawong
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/maintaining-a-woocommerce-website/
- ถ้าเว็บเจ๊ง ไม่ดูแลรักษาจะมีข้อเสียหลายอย่างตามมากับธุรกิจเรา
- อัพเดท WordPress ให้ล่าสุดอยู่เสมอ พวก security patch นี่ควรรีบอัพเลย
- จากประสบการณ์เราไม่ควรเปิด autoupdate เราควรทำ maunal แล้วเทสก่อน
- เราควร monitor การอัพเดทจาก core และ Woo ดู changelog ดู release
- ถ้าต้องการแก้ theme ของเดิม แนะนำให้สร้าง child theme มาแก้แทน
- อย่า treat WooCommerce เป็นแบบ plugin ปกติ เพราะว่า Woo เป็น plugin ที่ใหญ่มาก และมีหลายๆ plugin เกี่ยวข้อง
- wpboom.com เป็น service ทำ snapshot testing
- robotninja.com เป็น service ทำ test พวก store ของเรา (checkout process)
- wp migrate db เอาไว้ migrate db จาก staging เป็น production
- มีข่าวว่า WooCommerce จะแยกข้อมูลออกมาเป็น table ของตัวเองในปีนี้ (2019)
- WC-Admin กำลังมา เป็นหน้า dashboard ของ Woo บน WordPress
Customizing WooCommerce with WooCommerce Customizer and How to Extend Its Functionality
Speaker: Apinya Sirikunchorn
URL: https://2019.bangkok.wordcamp.org/session/customizing-woocommerce-with-woocommerce-customizer-and-how-to-extend-its-functionality/
- WooCommerce Customizer เป็น open-source plugin ที่เราสามารถ customize การแสดงผลต่างๆ ของ WooCommerce ได้
- Speaker ได้ contribute โค้ดเข้าไปกับ plugin นี้ด้วย! แต่ก่อนที่จะทำได้ ต้องรู้จัก WooCommerce Hooks ก่อน ตามไปอ่านได้ที่ WooCommerce Visual Hooks Guide
- Skyverge เป็นบริษัทที่ทำ Woo Extension ดีๆ เยอะ เช่น Membership
- การรู้จัก Woo Hooks จะทำให้เราเขียนโค้ดสั้นๆ แล้วก็อยากจะเพิ่มลด หรือเปลี่ยน text ตรงไหนก็ได้
- ถ้าเราอยาก override ตัว template ของ WooCommerce เราสามารถก๊อบไฟล์นั้นๆ แล้วมาวางใน theme ของเราให้ถูกที่ แล้วก็เริ่มแก้ได้เลย อ่านต่อได้ที่ Template structure & Overriding templates via a theme
จบงาน! เย้ ขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นมาครับ
ปล. งานจัดวันที่ 17 ก.พ. 2019 ณ ม.สยาม